หากคุณคือคนหนึ่งที่ฝันอยากสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง เพื่อคว้าโอกาสสู่การประสบความสำเร็จในฐานะเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นสร้างแบรนด์อย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง บทความนี้มาพร้อมกับขั้นตอนการสร้างแบรนด์ง่าย ๆ ที่ไม่ว่าใครก็ทำได้ ให้คุณลงทุนปั้นแบรนด์ของตัวเองได้อย่างมั่นใจ และก้าวสู่ความสำเร็จได้อย่างที่ต้องการ ติดตามกันได้เลย
รู้ก่อนดีกว่า ก่อนเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของตัวเอง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ?
- เตรียมงบประมาณ
ก่อนที่เราจะเริ่มต้นสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ต้องเตรียมก็คือเรื่องของ ‘งบประมาณ’ สำหรับการลงทุน โดยเราควรเตรียมเงินก้อนไว้สำหรับใช้จ่ายใน 3 ส่วนหลัก ๆ นั่นก็คือ การผลิตสินค้า การทำการตลาด และการจัดจำหน่าย - ศึกษากลุ่มเป้าหมาย
เรื่องถัดมา ก็คือการศึกษากลุ่มเป้าหมาย เพราะหากเรามีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน มีความมั่นใจว่าเราจะขายสินค้าให้กับใคร ก็จะช่วยให้เราพัฒนาสินค้าออกมาได้ตรงใจ และสื่อสารออกไปได้ตรงเป้า - ศึกษาข้อมูลคู่แข่ง
นอกจากการศึกษากลุ่มลูกค้าเป้าหมายแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือการศึกษาข้อมูลคู่แข่ง เพื่อดูว่าคู่แข่งของเรามีสินค้าแบบไหน ทำการตลาดอย่างไร และกลุ่มลูกค้าพูดถึงแบรนด์คู่แข่งอย่างไรบ้าง ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการพัฒนาแบรนด์ของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นได้ - หาสินค้าที่ใช่
เมื่อเรามีงบประมาณที่ตั้งไว้ และมีกลุ่มลูกค้าที่อยากจะขาย เรื่องต่อไปที่เราต้องเตรียม ก่อนที่จะเริ่มต้นสร้างแบรนด์ ก็คือการหาสินค้าที่ใช่ โดยสินค้าที่เราจะผลิต ควรเป็นสินค้าที่สามารถช่วยแก้ปัญหา หรือช่วยให้ลูกค้ามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่จะช่วยให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ และกลายเป็นลูกค้าประจำของเราอย่างยั่งยืน - เรียนรู้เรื่องการตลาด
ในฐานะเจ้าของแบรนด์ สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ ไม่ใช่แค่การหาเงินมาลงทุน และการพัฒนาสินค้าเท่านั้น แต่เรายังจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องการตลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเทรนด์ใหม่ ๆ กลยุทธ์การทำคอนเทนต์ที่น่าสนใจ รวมถึงเทคนิคการขายที่ควรนำมาปรับใช้ เพื่อให้สินค้าของเราโดดเด่นเหนือคู่แข่ง - วางแผนเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย
มาถึงเรื่องสุดท้ายที่สำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้เราเริ่มต้นสร้างแบรนด์ได้อย่างมั่นคง ก็คือการวางแผนเรื่องช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเราจะต้องศึกษาจากพฤติกรรมของลูกค้าเป้าหมาย ว่าลูกค้าของเราชอบใช้งานช่องทางไหนมากที่สุด และในช่วงแรก เราควรเน้นไปที่ช่องทางเดียวก่อน เพื่อให้เราไม่ต้องพะวงกับการขายหลายช่องทางมากเกินไป เมื่อเราเริ่มขายไปสักระยะจนมั่นใจ และทำกำไรได้ตามเป้าแล้ว จึงเริ่มขยับขยายไปยังช่องทางอื่น ๆ เพื่อเป็นการขยับขยายธุรกิจ
แนะไอเดียสินค้าน่าสนใจ ขายง่าย กำไรงาม
สำหรับเจ้าของแบรนด์มือใหม่ ที่ยังไม่แน่ใจว่าเราควรจะเริ่มจากสินค้าอะไร ขอแนะนำสินค้า 2 ประเภทที่ได้รับความนิยมในตลาด และมีโอกาสที่จะทำกำไรได้ดี นั่นก็คือ ‘เครื่องสำอาง’ และ ‘สกินแคร์’ เพราะสินค้า 2 ประเภทนี้ เป็นสินค้าที่เราสามารถพัฒนาสูตรออกมาได้อย่างหลากหลาย หากเป็นเครื่องสำอาง เราก็จะได้สนุกไปกับการคิดค้นสีสันและลูกเล่นใหม่ ๆ เพื่อช่วยเนรมิตความสวยบนใบหน้าให้กับคนที่รักการแต่งแต้มสีสันลงบนผิว และหากเป็นสกินแคร์ เราก็จะได้มีส่วนช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มลูกค้า ด้วยการพัฒนาสกินแคร์ที่ตอบโจทย์กับปัญหาผิว
ซึ่งความน่าสนใจของสินค้า 2 ประเภทนี้ ก็คือแนวโน้มการเติบโตในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ที่คนส่วนใหญ่เริ่มหันมาใส่ใจกับการดูแลตัวเองกันมากขึ้น จึงเริ่มมองหาเครื่องสำอางและสกินแคร์จากแบรนด์ใหม่ ๆ หากใครที่ฝันอยากเริ่มต้นสร้างแบรนด์ของตัวเอง เพื่อก้าวสู่การเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ บอกเลยว่า ตลาดเครื่องสำอางและสกินแคร์ เป็นหนึ่งในตลาดที่น่าสนใจ และเหมาะกับการลงทุนเป็นอย่างยิ่ง
8 ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ฉบับมือใหม่ ที่คุณเองก็ทำได้
- เลือกสินค้าที่ต้องการ
ขั้นตอนแรกคือการเลือกสินค้าที่ต้องการ เป็นสินค้าที่เรามั่นใจ และคิดว่าจะตอบโจทย์กับกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน เช่น สกินแคร์ที่เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย หรือ ลิปสติกที่มีเฉดสีสดใสไม่เหมือนใคร - เตรียมเงินสำหรับลงทุน
เมื่อมีสินค้าที่อยากขาย ก็ถึงเวลาจัดสรรเงินสำหรับลงทุน โดยก้อนแรกเป็นเงินสำหรับการผลิตสินค้า ก้อนถัดมาก็คือเงินสำหรับการโปรโมต และไม่ลืมแบ่งไว้อีกหนึ่งก้อนสำหรับการจัดจำหน่าย ซึ่งอาจประกอบไปด้วยค่าธรรมเนียมในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ค่าพัสดุ ค่าจัดส่ง และค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ ที่เราต้องนำมาคำนวณให้ดี - ศึกษาตลาดของสินค้าที่ต้องการขาย
ขั้นตอนถัดมาคือการศึกษาตลาดของสินค้าที่ต้องการขาย โดยอาจเริ่มจากการสำรวจดูว่าคู่แข่งของเรามีวิธีการนำเสนอสินค้าแบบไหน จากนั้นจึงนำมาพัฒนาให้เป็นกลยุทธ์ในแบบฉบับของแบรนด์เราเอง - ออกแบบสินค้า
เพื่อให้แบรนด์ของเราเริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น อีกหนึ่งขั้นตอนที่จะขาดไปไม่ได้ ก็คือการออกแบบสินค้า เพื่อให้ภาพที่เราจินตนาการไว้ชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น การตั้งชื่อสินค้า ออกแบบโลโก้ ออกแบบแพ็กเกจ - มองหาโรงงาน OEM ที่ได้มาตรฐาน
เมื่อเรามีสินค้าที่ใช่ และมีเงินทุนที่พร้อม ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ที่สำคัญที่สุด ก็คือการมองหาโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน เพราะโรงงานนี้จะเป็นผู้เนรมิตสินค้าของเราให้เป็นจริง โดยควรเลือกโรงงานที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ในการผลิตสินค้ามานาน ผ่านการตรวจสอบจากสถาบันที่ได้มาตรฐาน และสามารถให้คำแนะนำในการพัฒนาสินค้ากับเราได้ - สั่งผลิตสินค้า
หลังจากที่เราได้โรงงาน OEM ที่ตอบโจทย์ ก็ถึงเวลาของการสั่งผลิตสินค้า ซึ่งในขั้นตอนนี้เราจะต้องมีการพูดคุยกับโรงงานอย่างใกล้ชิด และแจ้งความต้องการให้ชัดเจนที่สุด ยิ่งเรามีข้อมูลที่ครบถ้วน ก็ยิ่งช่วยให้การผลิตเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น - เตรียมระบบสั่งซื้อ
เมื่อสินค้าของเราพร้อมจำหน่าย ก็มาถึงขั้นตอนของการเตรียมระบบสั่งซื้อ ซึ่งเราอาจทดลองเปิดขายให้กับเพื่อน ๆ หรือคนรอบตัว เพื่อดูว่ามีจุดใดบ้างที่ต้องปรับปรุง ก่อนจะเริ่มวางขายจริง - โปรโมตสินค้า
ขั้นตอนการสร้างแบรนด์ขั้นตอนสุดท้าย ก็คือการโปรโมตสินค้าของเราออกไปให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งในช่วงแรกของการเปิดตัวนี้ เป็นช่วงที่เราจะต้องมีการจัดโปรโมชัน เช่น โปรโมชันลดราคา จัดส่งฟรี หรือแถมสินค้าตัวอย่าง เพื่อให้ลูกค้าเกิดความสนใจ และเข้ามาทำความรู้จักกับสินค้าของเรา
นอกจากขั้นตอนการสร้างแบรนด์ที่เรานำมาฝากกัน เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนที่สงสัยว่า ถ้าอยากสร้างแบรนด์ครีมควรลงทุนเท่าไหร่ ? คำตอบก็คือ เริ่มต้นที่ 50,000 บาทขึ้นไป ซึ่งจำนวนเงินที่ใช้ลงทุน จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบหลายอย่าง เช่น สูตรที่ต้องการพัฒนา และ จำนวนชิ้นที่ต้องการผลิต ทั้งนี้ ควรปรึกษากับโรงงานผลิต เพื่อพูดคุยถึงความต้องการ และวางแผนการผลิตที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้เราได้รับข้อมูลที่แน่นอน และเตรียมพร้อมสำหรับการสร้างแบรนด์ของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ
อยากทำแบรนด์ครีม แบรนด์เครื่องสำอางเป็นของตัวเอง ไม่อยากอย่างที่คิด ปรึกษา 999 Laboratories ได้เลย เราคือโรงงานผลิตเครื่องสำอางและสกินแคร์ครบวงจร มาตรฐานสากล พร้อมให้คำปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงจัดจำหน่าย แม้อยากสร้างแบรนด์ในงบน้อยก็ทำได้ เราพร้อมช่วยให้คุณก้าวสู่ความสำเร็จอย่างที่ต้องการ ติดต่อผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลย
