Glycerin ในเครื่องสำอาง ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

เปิดชื่อ 6 ส่วนผสมสกินแคร์ยอดฮิต ตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว

ผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้มองหาแค่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้แล้วรู้สึกดีเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขายังต้องการรู้ด้วยว่าสิ่งที่ตนเองทาลงไปบนผิวคืออะไร ทำงานอย่างไร และปลอดภัยหรือไม่ แบรนด์ต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องหันมาให้ความสำคัญกับส่วนผสมสกินแคร์ในระดับที่ลึกยิ่งขึ้น เพื่อให้สินค้าตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ และความต้องการของตลาดได้ในคราวเดียว

Glycerin ในเครื่องสำอาง ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว

แนะนำส่วนผสมสกินแคร์ อยากผลิตสินค้าให้ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายต้องรู้ !

1. Glycerin ในเครื่องสำอางและสกินแคร์ มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ขาดไม่ได้

Glycerin หรือ กลีเซอรีน เป็นหนึ่งในส่วนผสมที่พบได้บ่อยที่สุดในเครื่องสำอางและสกินแคร์ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถดึงดูดและกักเก็บความชุ่มชื้นให้แก่ผิว จัดอยู่ในกลุ่ม Humectant ที่สามารถช่วยให้ผิวนุ่มเด้ง อิ่มน้ำ และดูสุขภาพดี

สำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือสกินแคร์ กลีเซอรีนถือเป็นส่วนผสมที่มีความเสถียรสูง ทั้งยังใช้งานง่าย เข้ากันได้ดีกับสูตรต่าง ๆ และมีความปลอดภัยต่อผิว แม้แต่ในกลุ่มผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้ Glycerin ในเครื่องสำอางและสกินแคร์จึงนับเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะอย่างยิ่งหากต้องการสร้างสูตรที่ให้สัมผัสชุ่มชื้นและอ่อนโยน

2. Pentylene Glycol ส่วนผสมอเนกประสงค์ที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ

Pentylene Glycol คือ สารที่มีคุณสมบัติหลากหลาย จัดอยู่ในกลุ่ม Multi-functional Ingredient ที่ช่วยทั้งในเรื่องของการให้ความชุ่มชื้นและการเป็นสารกันเสียจากธรรมชาติ โดยจุดเด่นของ Pentylene Glycol คือสามารถทำงานร่วมกับสารบำรุงผิวอื่น ๆ ได้ดี และเพิ่มความเสถียรให้กับสูตร นอกจากนี้ ในเชิงการตลาด การใช้ Pentylene Glycol ยังเป็นส่วนผสมครีมที่สามารถสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจในเรื่อง Clean Beauty หรือสูตรอ่อนโยนได้อีกด้วย

3. Caprylyl Glycol สารเพิ่มเนื้อสัมผัสและยืดอายุผลิตภัณฑ์

Caprylyl Glycol คือ อีกหนึ่งส่วนผสมสกินแคร์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในวงการเครื่องสำอางและสกินแคร์ ด้วยคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื้นอย่างอ่อนโยน และมีฤทธิ์ต้านจุลชีพ จึงสามารถช่วยยืดอายุของผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสารกันเสียที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง

ในเชิงการพัฒนาสูตร Caprylyl Glycol คือตัวช่วยที่ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีสัมผัสที่ดี ไม่เหนียวเหนอะหนะ และยังช่วยเสริมการดูดซึมของสารบำรุงให้เข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ถือเป็นส่วนผสมที่เหมาะกับผลิตภัณฑ์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นครีม โลชั่น หรือเซรั่ม

4. Niacinamide (Vitamin B3) ส่วนผสมครีมเพื่อผิวที่เรียบเนียนและสมดุล

Niacinamide หรือวิตามินบี 3 เป็นหนึ่งในส่วนผสมสกินแคร์ที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพราะสามารถตอบโจทย์ปัญหาผิวได้อย่างครอบคลุม ทั้งช่วยลดเลือนรอยแดง ลดความมันส่วนเกิน เสริมเกราะปกป้องผิว และยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนสม่ำเสมอมากขึ้น

จุดเด่นของ Niacinamide คือ ความสามารถในการปรับสมดุลของผิวโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เหมาะสำหรับสูตรที่พัฒนาเพื่อผิวบอบบางหรือมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย อีกทั้งยังช่วยเสริมฤทธิ์ของสารต้านอนุมูลอิสระและเพิ่มประสิทธิภาพของสาร Whitening ได้เป็นอย่างดี จึงมักพบ Niacinamide เป็นส่วนผสมครีมในกลุ่ม Whitening, Anti-aging และ Oil Control

5. Hyaluronic Acid คำตอบของสกินแคร์เพื่อผิวชุ่มชื้น

Hyaluronic Acid หรือ HA เป็นอีกหนึ่งส่วนผสมครีมที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ด้วยคุณสมบัติในการกักเก็บน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวหลายร้อยเท่า Hyaluronic Acid จึงช่วยให้ผิวอิ่มน้ำ ดูเรียบเนียน และลดเลือนริ้วรอยได้ในระยะยาว เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ในหลากหลายประเภท ทั้งเซรั่ม ครีม หรือแผ่นมาสก์หน้า 

6. Vitamin C วิตามินเพื่อผิวกระจ่างใสและต้านอนุมูลอิสระ

Vitamin C ถือเป็นสารแอ็กทิฟยอดนิยมในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Whitening และ Anti-aging ด้วยคุณสมบัติในการลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด 

ในด้านของการพัฒนาสูตร Vitamin C มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งชนิดบริสุทธิ์ (L-Ascorbic Acid) ที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจนแต่ไวต่อแสงและความร้อน ไปจนถึงอนุพันธ์ต่าง ๆ เช่น Ascorbyl Glucoside หรือ Magnesium Ascorbyl Phosphate ที่มีความเสถียรสูง และที่สำคัญ Vitamin C ยังเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมสกินแคร์ที่ตอบโจทย์ตลาดกลุ่มใหญ่ และสามารถสร้างจุดเด่นให้แบรนด์ได้ง่าย โดยเฉพาะหากต้องการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเพื่อผิวกระจ่างใส

การใส่น้ำหอมในเครื่องสำอางอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้

ไขข้อสงสัย Fragrance ในเครื่องสำอางและสกินแคร์ ถือเป็นเสน่ห์หรือความเสี่ยง ?

Fragrance หรือ น้ำหอมในเครื่องสำอางและสกินแคร์ เป็นส่วนผสมที่มักถูกพูดถึงในแง่ของความหอมที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ แต่ในอีกด้านก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของการระคายเคือง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่มีผิวแพ้ง่าย

ดังนั้น แม้ว่าการใส่ Fragrance ในเครื่องสำอางและสกินแคร์จะสามารถช่วยเพิ่มความหรูหราแก่ผลิตภัณฑ์ได้ แต่ควรเลือกใช้ในปริมาณที่เหมาะสม และพิจารณาใช้ Fragrance-free หรือ Essential oil-based Fragrance สำหรับสูตรที่เน้นความอ่อนโยน หรือกลุ่มลูกค้าที่เน้นความปลอดภัยเป็นหลัก

สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างแบรนด์สกินแคร์ ควรวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มที่ให้ความสำคัญกับกลิ่นหอม หรือให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและส่วนผสมที่เรียบง่าย เพราะการเลือกใช้น้ำหอมในเครื่องสำอางและสกินแคร์จะส่งผลต่อทั้งภาพลักษณ์ของแบรนด์ รวมถึงความพึงพอใจของผู้ใช้

 

หากคุณกำลังมองหาโอกาสในการสร้างแบรนด์สกินแคร์หรือเครื่องสำอางที่ไม่ซ้ำใครในท้องตลาด 999 Laboratories พร้อมให้บริการพัฒนาสูตรเครื่องสำอาง ภายใต้งานวิจัยและพัฒนาสกินแคร์โดยนักวิจัยมืออาชีพ ให้คุณสามารถออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค มีจุดขายที่ชัดเจนและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถจดสิทธิบัตรได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และคุณจะเป็นเจ้าของสูตรนั้นแต่เพียงผู้เดียว ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 098-8303049 หรือ Line: @999lab

 

ข้อมูลอ้างอิง

  1. 7 Not-To-Be-Missed Benefits of Glycerin in Skincare. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 จาก https://www.neutrogena.com/the-bar/seven-not-to-be-missed-benefits-of-glycerin-in-skincare.
  2.  Pentylene Glycol. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 จาก https://www.100percentpure.com/pages/ingredient-pentylene-glycol.
  3. Why Is Caprylyl Glycol Good For The Skin?. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 จาก https://www.stylecraze.com/articles/caprylyl-glycol-for-skin/